
ภาพนี้แสดง "8 อุปนิสัยของคนที่มีประสิทธิผลสูง" ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ชีวิต มีรายละเอียดดังนี้:
- ขจัดสิ่งที่ไม่สำคัญ (และมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญ): อุปนิสัยแรกคือการรู้จักแยกแยะและกำจัดงานหรือกิจกรรมที่ไม่จำเป็น หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถทุ่มเทเวลาและพลังงานให้กับสิ่งที่สำคัญและส่งผลต่อเป้าหมายหลักได้มากที่สุด
- ทำงานตามหลัก 80/20 (งาน 20% ที่สร้างผลกระทบมากที่สุด): อุปนิสัยนี้อิงตามหลักการพาเรโต (Pareto Principle) ซึ่งกล่าวว่า ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ (80%) มักจะมาจากสาเหตุหรือการกระทำส่วนน้อย (20%) ดังนั้น คนที่มีประสิทธิผลสูงจะมุ่งเน้นไปที่การทำงาน 20% ที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะสร้างผลกระทบหรือผลลัพธ์ได้ถึง 80% แทนที่จะเสียเวลาไปกับงานที่ไม่สำคัญมากนัก
- หยุดพักอย่างมีกลยุทธ์ (ฟื้นฟูพลังเพื่อเดินทางไกล): การทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักอาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้าและประสิทธิภาพที่ลดลง อุปนิสัยนี้เน้นความสำคัญของการหยุดพักเป็นระยะๆ อย่างมีแบบแผน เพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อน ฟื้นฟูพลัง และกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
- ขจัดสิ่งรบกวน (สิ่งที่จำกัดประสิทธิภาพการทำงานของคุณ): สิ่งรบกวนต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ เสียงดัง หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม สามารถลดทอนสมาธิและประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมาก อุปนิสัยนี้คือการตระหนักถึงสิ่งรบกวนเหล่านี้และหาวิธีจัดการหรือกำจัดออกไป เพื่อสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการจดจ่อกับงาน
- กำหนดกรอบเวลา (เพื่อมุ่งเน้นสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จ): การตั้งกำหนดเวลาหรือเส้นตาย (deadline) สำหรับงานแต่ละชิ้น ช่วยให้เกิดการจัดลำดับความสำคัญ รู้ว่าต้องทำอะไรให้เสร็จเมื่อไหร่ และช่วยกระตุ้นให้ทำงานเสร็จตามแผนที่วางไว้ เป็นการสร้างวินัยและความชัดเจนในการทำงาน
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริม Flow (พื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณอย่างเต็มที่): "Flow" คือสภาวะที่จดจ่อกับงานอย่างเต็มที่จนลืมเวลาและสิ่งรอบข้าง การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทั้งทางกายภาพ (เช่น โต๊ะทำงานที่เป็นระเบียบ แสงสว่างเพียงพอ) และทางจิตใจ (เช่น การปิดการแจ้งเตือน) จะช่วยให้เข้าสู่สภาวะ Flow ได้ง่ายขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาสั้นๆ (ใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่าที่สุด): ในแต่ละวันมักจะมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่ว่างอยู่ เช่น ระหว่างรอการประชุม หรือระหว่างเดินทาง การใช้ "Time Pockets" หรือช่วงเวลาสั้นๆ เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ เช่น การตอบอีเมลสั้นๆ การวางแผนงานเล็กๆ หรือการอ่านบทความสั้นๆ จะช่วยเพิ่มผลผลิตโดยรวมได้
- ทำให้เป็นอัตโนมัติ (ใช้เทคโนโลยีช่วยทุกที่ที่ทำได้): งานบางอย่างที่เป็นงานซ้ำๆ หรือมีขั้นตอนชัดเจน สามารถใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วยจัดการให้เป็นอัตโนมัติได้ เช่น การตั้งค่าการตอบกลับอีเมลอัตโนมัติ การใช้โปรแกรมจัดการงาน หรือการสร้างเทมเพลตเอกสาร การทำเช่นนี้จะช่วยประหยัดเวลาและลดภาระงาน ทำให้มีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญและต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น